เกิดมาแปล

ขีดสองขีดสีแดง

‘….นี้มันแปลก ฉันคิดว่ามันหมายความว่าขีดสีแดงสองแถวนี้มันหมายความว่าตั้งครรภ์’

แคเลียร์ แทคสเกท มองดูด้วยความงุนงง

เธอกำลังจมอยู่กับความคิด, เธอจ้องมองที่ตรวจครรภ์ ที่เธอได้ถือมันอยู่ในมืออีกครั้ง

เธอถือกระดาษผลตรวจ แคเลียร์อ่านมันอย่างละเอียด {ขีดสองขีดปรากฎขึ้นเหนือช่องสีขาวข้างหลังกระดาษทดสอบ, สองเส้นหมายความว่าตั้งครรภ์, เส้นเดียวไม่ตั้งครรภ์}

เธอมองไปที่ขีดสองแถวบนกระดาษทดสอบ และข้อความในคู่มืออยู่หลายครั้ง กลับไปกลับมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ไม่นาน เธอก็ได้พูดคำหนึ่งคำเบาๆที่อธิบายสถานการณ์ตรงหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน

“……ท้อง?”

กระดาษทดสอบที่เธอถืออยู่กำลังตกลงพื้นห้อง เธอค่อยๆจับมันด้วยมือที่สั่นและเปิดอ่าน

เธอมองไปยังท้องฟ้าอยู่ชั่วขณะ

คฤหาสน์นี่ได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิ อันเป็นการปูนบำเหน็จจากที่เธอได้สร้างผลงานครั้งยิ่งใหญ่ในสงครามตลอดเจ็ดปี

โคมระย้าในคฤหาสน์ส่องระยิบระยับภายใต้แสงจากพระอาทิตย์อัสดง

ดวงตาของเธอนั้นระยิบระยับเปล่งประกาย , เธอหลับตาลงอยู่ชั่วขณะพร้อมกับหายใจเข้า

‘ฟู่วววว ,ฮา.ฟู่ววว’

และมองลงไปที่กระดาษทดสอบที่ตอนนี้ตกอยู่ที่พื้นอีกแล้ว

มันช่างชัดเจน

ขีดสีแดงสองขีดมันชัดเจนจนคุณไม่สามารถเอามันออกได้

“…..โอ้, พระเจ้า”

‘ฉันท้องงั้นหรอ?’

อารมณ์แรกที่เข้ามาเติมเต็มเธอ,ที่มาพร้อมด้วยความเขินอาย, เธอรับรู้ได้ว่ามันคือความสุข

“ลูกรัก!”

แคเลียร์กระโจนตัวออกจากที่นั่ง, เธอไม่สามารถรับรู้ได้ถึงการกระทำของเธอเลยในตอนนี้

เมื่อเธอหายใจเข้า, ปอดของเธอขยายอยู่อย่างรวดเร็ว

ความรู้สึกจั๊กจี้ได้ลามไปทั่วร่างกายของเธอราวกับว่าเธอนั้นถูกฝังอยู่ในขนมสายไหม

มันเป็นความรู้ที่มึนตึบที่เหมือนว่ามีใครบางคนเอาค้อนมาตีหัวของเธอ ในขณะเดียวกันหัวใจของเธอก็เต้นแรง

มันเป็นความรู้สึกชวนให้สงสัยและตื่นเต้นท่ามกลางช่วงเวลานี้

‘……..มีเด็กจริงๆอยู่ที่นี่? มีเด็กกำลังเติบโตอยู่ข้างในนี้?’

เธอนำมือที่สั่นไหวของเธอ ลูบไปที่หน้าท้องที่ยังเล็กของเธอ

นิ้วของเธอนั้นสั่นไหวบนท้องน้อยๆของเธอ

‘โอ้, พระเจ้า, เด็ก……ฉันมีลูก!”

อัศวินที่เป็นสตรี เกือบทุกคนนั้น แทบจะเป็นหมัน

ทุกวัน จะเต็มไปด้วยการฝึกอันหนักหน่วง การเผชิญหน้ากับผู้ชายและผู้หญิง ความเครียดบนสมรภูมิโชกเลือด ทั้งหมดนี้ทำให้การทำงานของมดลูกอ่อนแรงเป็นอย่างมาก

และมากกว่านั้น , อัศวินแห่งจักรวรรดิโรจาส ได้ขึ้นมามีชื่อเสียงอันเรื่องลือเป็นเพราะการฝึกฝนอย่างหนักที่ไม่สนสภาพร่างกาย และไม่แบ่งแยกเพศ

ด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้ราชวงศ์ของจักรวรรดิสามารถป้องกันการรุกรานได้อย่างเหนียวแน่น และที่สำคัญกว่านั้น ชื่อเสียงของอัศวินของจักรวรรดิ สังกัดกองโลหิตสิงห์(สิงโตแดง-ผู้แปล) ต่างทำให้ประเทศรอบข้างยำเกรง

และคือเธอเอง ผู้บัญชาการของอัศวินโลหิตสิงห์ แห่งโรจาส ที่เป็นคนสร้างชื่อเสียงอันเรื่องลือ

เธอคือ แคเลียร์ แทรกสเกท

ทหารลำดับที่หนึ่ง ผู้พร้อมด้วยความสามารถ และทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของจักรวรรดิโรจาส

เป็นกระทั้งผู้พิพากษาและนักรบ

วีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ที่จบสงคราม7ปีอันโหดร้าย

แคเลียร์ แทรกสเกทเป็นทั้งผู้พิพากษาที่โหดเหี้ยม

อัศวินที่ทรงคุณธรรม และเป็นนักรบที่ศัตรูอยากที่จะหลีกเลี่ยงที่สุด

เธอนั้นถึงแม้จะไม่ใช่ชนชั้นสูง แต่ก็ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพสูงสุดทั้งที่อายุน้อยที่สุด

จำนวนหยาดเหงื่อและเลือดที่เธอหลั่งนั้นไม่น้อยเลยเพื่อสร้างทักษะอันมากมายเหล่านี้

ร่างกายที่บอบช้ำ ส่วนที่หักแล้วหักเล่า ก็ถูกรักษาซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้ง

ดังนั้นโอกาสที่เธอจะมีลูกได้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ไม่ใช่แค่เธอ แต่หมอของเธอนั้นก็ได้บอกผลตรวจที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักแก่เธออยู่เป็นเนื่องๆ

“ฉันท้อง, ฉัน……ท้อง. อะไรกัน?ฮา!”

แคเลียร์ตัวสั่นและพยายามที่จะกดความรู้สึกแห่งความสุขนี้

ความรู้สึก อารมณ์ที่ท้วมท้น ทำให้เธอถึงกับหลั่งน้ำตาที่ไม่เคยไหลรินมามากกว่า 2ทศวรรษ

‘…ลูก ,…ลูกของฉัน’

เพราะเธอเป็นเด็กกำพร้า

ความยากจน เด้กกำพร้าล้วนถูกพ่อแม่ทิ้งด้วยสาเหตุเหล่านั้น

เมื่อครั้งยังวัยเยาว์ เธอถูกทอดทิ้งอยู่ที่ตรอกแห่งหนึ่ง แต่เธอกลับรอดชีวิตและใช้ชีวิต คลานสี่ขาราวกับสุนัขเพศเมีย ที่หาอาหารกินอยู่ข้างกองขยะ เธอไม่มีความทรงจำนั้นอีกต่อไป เมื่อเธอเองสามารถหาเงินได้เป็นพันล้านในครั้งแรก…

เธอไม่สามรถกินหรือนอนได้ปกติ แต่เธอกลับพัฒนาได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

เธอตัวสูงกว่าผู้คนรอบข้าง แข็งแกร่ง และคล่องแคล่วว่องไว จนเธอเองก็ไม่คาดคิดได้ว่าจะเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นกับเด็กจรจัด นั้นคือเหตุผลที่ทำไมเธอถึงสามารถช่วย บุตรชายเพียงคนเดียว ของท่านดยุค ที่ถูกลักพาตัวไปกลับมาได้ โดยการหิ้วหลังคอของเขากลับมาตลอดทาง เมื่อครั้งเขาอายุได้ 6 ขวบ

ต้องขอบพระคุณการช่วยเหลือ จากเจ้าชายน้อย ที่ช่วยให้เธอได้ล่ำเรียนดาบเมื่อตอนอายุ 6 ขวบ และนั้นเธอก็ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

‘ได้โปรด…ฉันวอนขอให้เมื่อสักครู่นี้มันไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน’

เพื่อที่จะหักห้ามตัวเองจากการล่ำไห้ แคเลียร์หายใจเข้าลึกแล้วกระพริบดวงตาถี่ๆไล่คราบหยาดน้ำตา

แต่ความสุข และความตื่นเต้นของเธอนั้นไม่ได้ลดน้อยลงไปด้วยเลย

เธอต้องหายใจออกสินะ แต่มันทำไม่ได้เลย สุดท้ายแล้วเธอก็กรีดร้องอีกครั้ง

“โอ้พระเจ้า! โอ้พระเจ้าของฉัน!! อ๊ะไม่นะฉันต้องใจเย็นๆทำแบบนี้มันไม่ดีกับเด็กในท้อง โอ้ ใช่!”

…อย่างไรก็ตาม เธอคงจะไม่สามารถรักษาท่าทีให้นิ่งได้ตามเคย

เธอพยายามสงบอารมณ์เท่าที่ทำได้ จนกระทั่งเธอเดินวนรอบห้องรับแขกนี่อยู่ราวๆ 27รอบ เธอก็ทรุดตัวลงนั่งพิงผนักกับเก้าอี้บุนวมนุ่มๆอีกครั้ง

ทีนี้ นึกคิดถึงปัญหาต่างๆที่ยังหลงเหลือ

“…ปัญหาก็คือเรื่องพ่อ”

ไซม่อน

สุรเสียงของเธอทุกข์ทรมานเลยทีเดียว เมื่อได้ข้อสรุปที่ว่าพ่อของ

เด็ก อาจจะเป็น

‘ไซม่อน เธอร์รอน’

ข่าวดี คือเขานั้นได้เป็นผู้ที่เธอมีสัมพันธุ์ด้วย ส่วนข่าวร้าย คือเขานั้นไม่ได้เป็นคนรักของแคเลียร์

อย่างไรก็ตามสิ่งที่โชคร้ายกว่าคือเขานั้นเป็น จอมมหาเวทย์ ดยุคแห่งจักรวรรดิโรจาส และวีรบุรุษ แห่งสงครามเช่นเดียวกับเธอ

และโชคร้ายกว่านั้นคือเขาเป็น บุตรชายเพียงคนเดียวของท่านดยุค ที่เธอได้ช่วยเขาไว้เมื่อครั้งตอน 6ขวบ และเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

…ใช่

แคเลียร์ไร้ค่าพอๆกับขยะ ที่ดันไปท้องกับใครไม่ท้อง แต่ดันท้องกับเพื่อนของตัวเอง! ต้องขอบคุณคืนนั้นสินะ ที่ทำให้เกิดความผิดพลาดนี่ขึ้น!

“…อ่า แม่งเอ้ย”

แคเลียร์ลูบท้องของเธออย่างนุ่มนวล และนึกขอโทษเจ้าตัวน้อย

“โอ้แม่ขอโทษนะลูกรัก แม่ปากไม่ดีเอง เพราะดันไปอยู่ในสงครามตั้งนาน ขอโทษนะคะ”

เธอไม่ได้รู้สึกผิดต่อการสาปแช่งตัวเองอีกต่อไปแล้ว…

“ขอโทษจริงๆนะลูกรัก ครั้งหน้าแม่จะระวังนะคะคนดี”

สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลก คือสิ่งที่พูดออกมาที่ดีที่สุด ทำให้เธออยากจะชีวิตน้อยๆนี้ด้วยคำพูดที่ดีที่สุดเท่านั้น

นั้นคือความรู้สึกเป็นครั้งแรกของเธอ นอกเหนือการอยากเอาชนะผู้อื่นด้วยความตาย

วงแสงสีระเรือกุหลาบสาดส่องมายังพวงแก้มของแคเลียร์

เธอไม่สามารถระบุความเลือดร้อนของตัวเธอเองได้เลย

ด้วยคำนี้ “ลูกของฉัน” จะถูกกล่าวอ้าง ทำให้อารมณ์ของเธอขึ้น

“ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม…”

ฉันจะปกป้องเด็กคนนี้

ทั้งหมดนี้ได้หมายความว่า ฉันได้สาบานกับดาบตรงหน้าอกของฉัน

‘ลูกของฉันช่างล้ำค่า’

มันคือจุดเชื่อมโยงที่น่าอัศจรรย์

และถึงแม้ มันจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่มหัศจรรย์ในคืนนั้นก็ตามที

— To be continue —

“เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของนาย”
เมื่อจบประโยคนั้น สายตาของไซม่อนก็เยือกเย็นขึ้นทันที เขากำลังยิ้มแต่เขากลับถามฉันด้วยสุรเสียงที่ทำให้เสียวสันหลัง
“..จริง หรอ?”
ความเมตตาที่เสแสร้งและความโกรธในน้ำเสียงที่กดลงจนต่ำและเต็มไปด้วยเยือกเย็น โหดร้ายนั้นก็มากพอที่จะทำให้บรรยากาศนั้นเย็นยะเยือก

“แล้วไอ้สารเลวคนไหนที่เป็นพ่อของเด็ก”
เขานั้นโกรธอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงแม้ว่าฉันจะรู้จักเขามานาน ฉันเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าเสียงของเขาได้เลยขีดจำกัดความโกรธและไม่สามารถควบคุมมันได้อีกแล้ว
แต่ทำไม…เขาถึงโมโหกันละ?
“แล้วมันเป็นกงการอะไรของนาย?”
“มันก็ใช่ว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีนะ, เพราะงั้น…”
“….แล้วไง?”
“ฉันจะเอาเด็กออก”
ฉันเจอกับปัญหาใหญ่เข้าให้แล้ว หลังจากที่เห็นสายตาที่โกรธเกรี้ยวของเขาแล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะบอกเขาได้เลยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา
—————
แคเลียร์ เธอเป็นวีรสตรีในสมรภูมิและเป็นถึงผู้บัญชาการ ที่เป็นคนทำให้สงครามอันยาวนานจบสิ้นลง แต่วันหนึ่งเธอกับพบว่าเธอนั้น…ตั้งท้อง
ในบรรดาผู้คนทั้งหมด, พ่อของเด็กคือ ไซม่อน เธอร์รอน เพื่อนสนิทและจอมมหาเวทย์ ผู้ซึ่งเธอได้ใช้ค่ำคืนหนึ่งที่เร่าร้อนร่วมกับเขา
เธอนั้นเชื่อว่าไซม่อนไม่ต้องการมีลูกเป็นแน่ แคเลียร์เลยปกปิดความจริงที่เธอตั้งครรภ์ จากนั้นได้เกษียณตัวเองออกจากงานและหายตัวไประหว่างที่ไซม่อนอยู่ห่างจากเธอ เพื่อที่เธอจะได้คลอดลูกอย่างสงบ

แต่ความจริงคือไซม่อนรักแคเลยร์มากกว่าใครๆทั้งหมด
และนั้นทำให้การตามหาตัวเธอ

ได้เริ่มต้นขึ้น